Monday, December 3, 2007

Friends

intro

(0.50)
A1 สิ่งหนึ่งที่เคยติดอยู่ในใจ จะเป็นเช่นไรถ้าตัวคนเดียว
ถ้าหากมีวันที่เราล้ม ก็คงไม่มีใครแลเหลียว
เจ็บปวดคนเดียว โดดเดี่ยวในใจ

A2 และหากมีวันที่เราสมหวัง ก็คงไม่มีความหมายสำคัญ อะไร
เมื่อรอบกายมีแต่คำชม ก็แค่ในวันที่สุขสม
แต่คงไม่มีสักคนจริงใจ

Hook ในวันที่ีมีทุกข์ ใครที่จะร่วมทุกข์ ใครที่ยืนข้างเราเสมอไป
ไม่ว่ามันจะยังดีร้าย ยังคงกอดคอไว้ ล้มลงเมื่อใด ก็ฉุดรั้ง
ไม่ต้องมีเป็นร้อย แค่เสี้ยวเดียวจากในล้านคนที่เวลาไม่อาจเปลี่ยนผัน
แค่หนึ่งคนก็มีความหมาย ไม่มีวันจางหาย คนที่ยอมตายได้แทนกัน

A3 ตะเกียกตะกายทะเยอทะยาน ไขว่คว้าต้องการให้เราต้องเหนือ กว่าใครเขา
สักวันเราอาจจะอยู่สูง แต่ในที่สุดก็ยิ่งหนาว
เมื่ออยู่ยืนยาวไปอย่างเดียวดาย

solo
(2.43)
Bridge แม้วันที่เหงาจับใจ โลกโหดร้าย ปลายทางมีแต่ความว่างเปล่า
แต่ทุกก้าวที่เดิน ก็ไม่เคยคิดหวั่น เพราะมี...

Hook คนที่ร่วมสุขสม คนที่ร่วมจมทุกข์ คนที่เคียงข้างเราทุกก้าวไป
ไม่ว่ามันจะยังดีร้าย ยังคงกอดคอไว้ ล้มลงเมื่อใด ก็ฉุดรั้ง
ไม่ต้องมีเป็นร้อย แค่เสี้ยวเดียวจากในล้านคนที่เวลาไม่อาจเปลี่ยนผัน
แค่หนึ่งคนก็มีความหมาย ไม่มีวันจางหาย คนที่ยอมตายได้แทนกัน

A4 คำตอบที่เรานั้นเคยค้นหา ความจริงที่เราทุกคนไขว่คว้า คืออะไร
นอกกายเราอาจจะมีครบ แต่สิ่งหนึ่งยากที่จะพบ
คือคนที่คบด้วยความจริงใจ

A5 ถึงชีวิตเราไม่อาจยืนยาว ก็คิดว่าคุ้มถ้าเรามีใคร
สักคนที่เรียกว่าเพื่อนแท้ คนที่ไม่มีสักเงื่อนไข
ผูกเป็นเงื่อนตายไม่เคยลืมเลือน

outro

Sunday, November 25, 2007

เป็นใจ



เป็นเพราะฝนตก หรือแดดมันร้อนไป
เลยทำให้หัวใจ บังเอิญ ได้ใกล้กัน
อาจเป็นเพราะอากาศ ที่อาจจะรู้ทัน
เลยทำให้ใกล้กัน ให้ฉันได้พบเธอ

มันช่างประหลาดอะไรอย่างนี้ไม่เคยเจอ
ก็เธอทำฉันเพ้อลอยไปไกล
มันช่างวิเศษจริง ๆ ที่ฟ้าช่างเป็นใจ
ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เพราะเธอมีฉันและฉันก็มีเธอ
รักเธอและเธอก็รักกัน
ยิ่งนานยิ่งรู้ ว่าหัวใจเราคล้าย ๆ กัน
ยิ่งนานวัน ยิ่งรักเธอ

อาจเป็นเพราะคนเรา เศร้าใจได้ไม่นาน
สักวันย่อมพ้นผ่าน เรื่องราวที่เหงาใจ
อย่างฉันก็คนหนึ่ง ซึ่งเึคยไม่รักใคร
แต่ฟ้าก็เป็นใจ ให้ฉันได้รักเธอ

มันช่างประหลาดอะไรอย่างนี้ไม่เคยเจอ
ก็เธอทำฉันเพ้อลอยไปไกล
มันช่างวิเศษจริง ๆ ที่ฟ้าช่างเป็นใจ
ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เพราะเธอมีฉันและฉันก็มีเธอ
รักเธอและเธอก็รักกัน
ยิ่งนานยิ่งรู้ ว่าหัวใจเราคล้าย ๆ กัน
ยิ่งนานวัน ยิ่งรักเธอ


Sunday, November 18, 2007

ทะเลหน้าหนาว

เพื่อนใหม่คนนี้ เพิ่งทำความรู้จักกันไปเมื่อกลางปีนี้เอง



คราวที่แล้วไปด้วยความรู้สึกผ่อนใจคลายอาการเหน็ดเหนื่อยจากอภิมหาธีสิสส้นตีนในชีวิต



แต่คราวนี้ ไปเพื่อหลบหนีเรื่องเหนื่อยหน่ายจิตใจแทน



ไม่รู้ว่าเพื่อนใหม่คนนี้ จะช่วยเราได้อีกเป็นครั้งที่สองหรือเปล่า





สิบกว่าชีวิตที่อยู่ที่นั่นด้วยกัน เป็นการรวมกลุ่มอันสุดประหลาด

เพื่อน พี่ น้อง เพื่อนของเพื่อน พี่ของเพื่อน ฯลฯ



แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่สนุก และก็แปลกใหม่ดีไม่ใช่น้อย เมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น





เมื่อถึงเวลากลางคืน ลมบกก็พัดเข้าสู่ทะเล หอบเอาอากาศหนาวยะเยือกแตะผิวกาย





แน่นอน เราทุกคนจึงพกพาเพื่อนเก่ากันมาด้วย คุณว้อดก้าสองคน คุณแบล็คเลเบิ้ล และไอ้แสงโสม จึงเป็นที่พึ่งของชาวเรากันอย่างบ้าคลั่ง



ถึงชั่วโมงนี้ คุณเสม็ดเลยดูจะน้อยใจไปสักนิด ไว้วันรุ่งขึ้น เราค่อยมาสนิทกันใหม่นะครับ



ตามที่ปรารถไว้



เรากลับมาซี้กันอีกครั้ง เพราะวันนี้ เราใช้เวลาทำความรู้จักกันหลายร้อยเมตรเลยทีเดียว

Saturday, November 10, 2007

ของใครของมัน

.




ทางที่เรา นั้นแยกเดิน เกินจะย้อนกลับไป
ไม่มีทางเริ่มต้นใหม่ เป็นได้เพียงแค่ฝัน
เราจากกันช่างไกลห่าง ต่างมีทางเดินของมัน
แม้ว่าเราเริ่มด้วยกัน แต่ปลายทางมันต่างไป

เธอมีรักทิศตะวันออก ส่วนฉันจะไปทางเหนือ
เธอตามฝัน ด้วยทางเรือ แต่ฉันจะเดินเท้าไป
เธอมีดวงดาวช่วยชี้นำทาง ส่วนฉันมีเพื่อนเป็นดอกไม้
ต่างคนหา ตามจุดหมายในใจ ความสุขของใครของมัน

ดาวที่เธอนั้นเอื้อมกอด ดอกไม้ที่ฉันเด็ดดม
เรือที่ลอยด้วยแรงลม รองเท้าของฉันก้าวเดิน
เส้นทางที่ทำให้ไกลห่าง อาจเคยอ้างว้างเหลือเกิน
แต่มันเป็นทางที่เลือกเดิน ด้วยความต้องการของเรา

เธอมีรักทิศตะวันออก ส่วนฉันจะไปทางเหนือ
เธอตามฝัน ด้วยทางเรือ แต่ฉันจะเดินเท้าไป
เธอมีดวงดาวช่วยชี้นำทาง ส่วนฉันมีเพื่อนเป็นดอกไม้
ต่างคนหา ตามจุดหมายในใจ ความสุขของใครของมัน

ยามเธอเหงา เอาหนังสือมาอ่าน ส่วนฉันฟังเพลงเปิดคลอ
เธอตามฝันโดยไม่รีรอ แต่ฉันขอนอนเรื่อยไป
เธอเดินตามทางที่แสนเป็นสุข และฉันก็อยู่ได้สบาย
ต่างคนต่างฝัน ค้นหากันไป ความสุขของใคร ของมัน

ความสุขมันอยู่ที่ใจ
ค้นหากันไป...ของใครของมัน

18 Feb 04

118 วันแห่งความโดดเดี่ยว

วันนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่วันของรอบปี ที่ข้าพเจ้าตื่นมารับแสงอาทิตย์ยามเช้าได้ทันโดยปกติ
แค่การจะตื่นให้ทันรับประทานอาหารเที่ยงนั้น ก็ดูยากเย็นเกินความสามารถของข้าพเจ้าอยู่มากโข

ฉะนั้น วันนี้ จึงขออนุมานเอาเองว่า เป็นวันดี ฤกษ์งามเช่นนี้ก็ควรจะมีอะไรดี ๆ เข้ามาในชีวิตบ้าง
ขณะที่เขียน(พิมพ์)อยู่นี้ นาฬิกาดิจิตอลในเด็สก์ทอป บอกตัวเลขที่ 12.39 PM น่าประหลาดใจ ที่ตื่นมาตั้งนานแล้ว ยังไม่เข้าช่วงบ่ายของวันเลย
ยิ่งเราตื่นเร็ว ก็ได้เห็นอะไรของวันมากขึ้นเท่านั้น
หากแต่ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมานี้ ข้าพเจ้า ยังไม่ได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตเลย แม้สักอย่างเดียว

สามเดือนกว่าแล้ว หลังจากข้าพเจ้ารับปริญญาไป หากจะนับเป็นวัน ก็นับได้118วันพอดี

หากถือว่า วันรับพระราชทานปริญญาบัตร เป็นวัน"จบการศึกษาอย่างแท้จริง" ข้าพเจ้าก็ว่างงานเกินหนึ่งร้อยวันเข้าไปแล้ว

หนึ่งร้อยวันที่ผ่านมานี้ ข้าพเจ้าได้อะไรจากชั่วโมงนับพัน วินาทีนับแสนไปบ้าง?

ไม่มีปรนัย
ไม่มีตัวช่วย
ไม่มีแม้คำตอบ

ได้แต่หวังว่า นับจากวันที่ 119 มันจะพาให้ข้าพเจ้าได้พบกับเรื่องใหม่ ๆ ในชีวิตเข้ามาบ้าง

นาฬิกาเดิม บอกเวลาที่ 12.49 PM

อีกแค่ สิบเอ็ดนาที ก็จะเข้าครึ่งหลังของวันแล้ว